กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประกาศความร่วมมือกับทางบริษัทสล็อตแตกง่าย Agoda ในการเปิดตัวแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจโรงแรมสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ) เป็นประเทศแรก โดยหวังว่าจะเป็นการส่งเสริมในด้านการท่องเที่ยวให้แก่ประเทศ
วันนี้ (27 พฤศจิกายน 2563) ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)
และนายจอห์น บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทอโกด้า (Agoda) ร่วมแถลงข่าว “การดำเนินงานสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine) และเปิดตัวแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจโรงแรมสถานที่กักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (ASQ)”
ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) ได้ร่วมมือกับบริษัทอโกด้า เปิดตัวระบบปฏิบัติการ (Platform) จองแพ็คเกจโรงแรมสถานกักกันโรคแห่งรัฐทางเลือก (Alternative State Quarantine (ASQ) packages) ประเทศแรกของโลกที่ใช้แพลตฟอร์มนี้
เพื่ออำนวยความสะดวกในการจองโรงแรมสถานที่กักตัว แก่ชาวไทยที่ต้องการเดินทางกลับเข้าประเทศไทย และชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาในประเทศไทย ช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็วในการค้นหาเปรียบเทียบแพ็คเกจ ASQ ในประเทศไทย เช่น จำนวนห้องพักที่ว่าง ราคาห้องพัก ประเภทห้องพัก และบริการอื่นๆ เป็นการลดเวลาในการเลือกจองโรงแรมที่ได้รับการรับรองโดยกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ครอบคลุมความต้องการของผู้ใช้บริการ มีการแสดงผลมากถึง 39 ภาษา บริการดูแลลูกค้าใน 21 ภาษา โดยเฉพาะภาษาอังกฤษและจีนบริการ ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง และมีกระบวนการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว นับเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไทย ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบกิจการในทุกระดับ
นายแพทย์ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ขณะนี้มีโรงแรมที่ได้รับการรับรองเป็น ASQ แล้ว 113 แห่ง สามารถสร้างรายได้ให้กับประเทศ 1,200 ล้านบาท สำหรับการเปิดตัวแพลตฟอร์ม เบื้องต้นมีสถานประกอบการเข้าร่วมแพ็คเกจ ASQ ให้เลือกรับบริการประมาณ 37 แห่ง และจะขยายเพิ่มจำนวน ASQ และสถานที่ควบคุมโรคทางเลือกในต่างจังหวัด (Alternative Local Quarantine – ALQ) อีกกว่า 100 แห่ง คาดว่าจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ราย และสร้างรายได้ให้ประเทศเพิ่มอีกกว่า 1,000 ล้านบาท
ด้านนายจอห์น บราวน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทอโกด้า กล่าวว่า ขอขอบคุณกระทรวงสาธารณสุข ที่มีแนวคิดก้าวหน้านำบริษัทที่มีเทคโนโลยีมีความเชี่ยวชาญการจองที่พักนำมาร่วมพัฒนาการเข้าถึงและประสิทธิภาพของแพลตฟอร์มจองแพ็คเกจ ASQ ในแบบดิจิทัล เพื่อให้การดูแลความปลอดภัยด้านสุขภาพแก่ประชาชนในประเทศ และนักเดินทางเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและองค์กรในลักษณะนี้ ย่อมมีส่วนช่วยให้โครงการอื่นๆ ในอนาคตสามารถดำเนินการไปได้อย่างราบรื่น คุ้มค่า อีกทั้งยังช่วยตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนผู้รับบริการได้อย่างเหมาะสม
ศรีสุวรรณ ชี้ ตร. ควรเอาผิด การ์ดม็อบคณะราษฎร สวม ชุดเกราะ
ศรีสุวรรณ ออกมาแสดงความเห็นว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ควรเอาผิด การ์ดม็อบคณะราษฎร ที่สวม ชุดเกราะ ในการชุมนุมเมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมา นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีกลุ่มบุคคลรวมตัวกันทำหน้าที่เป็นฝ่ายรักษาความปลอดภัย หรือ การ์ดให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ผิดกฎหมาย ที่เรียกตนเองว่า “คณะราษฎร 2563” ในพื้นที่จัดการชุมนุมต่างๆ ได้จัดหา “เสื้อเกราะ” มาสวมใส่อยู่ตลอดเวลา ล่าสุดคือการชุมนุมที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 เขตบางเขน
มีการ์ดของคณะราษฎรและประชาชนทั่วไปที่มาร่วมชุมนุมนำเสื้อเกราะมาใส่อย่างเปิดเผยนั้น เสื้อเกาะดังกล่าว ถือว่าเป็นยุทธภัณฑ์ ตามประกาศกระทรวงกลาโหม เรื่อง กําหนดชนิดยุทธภัณฑ์ที่ต้องขออนุญาต ตามพระราชบัญญัติควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ลงวันที 30 พ.ย.2550 ซึ่งถือว่าเป็นกฎหมายควบคุม ดูแล โดยเฉพาะ ประชาชนทั่วไปไม่สามารถจัดซื้อจัดหามาใช้เองได้
เพราะ “เสื้อเกราะ” เป็นยุทธภัณฑ์ควบคุม ภายใต้ พรบ.ควบคุมยุทธภัณฑ์ พ.ศ.2530 ซึ่งกำหนดให้มีได้เฉพาะส่วนราชการทหาร ตำรวจ ส่วนราชการ องค์การของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ที่มีภารกิจในการป้องกัน ปราบปรามและเสี่ยงภัย และไม่อนุญาตให้บุคคลทั่วไปมีไว้ในครอบครอง
หากประชาชนหรือบุคคลทั่วไปต้องการที่จะสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต หรือมีใช้ จะต้องได้รับใบอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหมเสียก่อน ตาม ม.15 ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้ผู้ใดสั่งเข้ามา นำเข้ามา ผลิต หรือมีซึ่งยุทธภัณฑ์ เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากปลัดกระทรวงกลาโหม”
หากฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากถูกเจ้าหน้าที่ตรวจจับได้จะถูกริบเสียทั้งสิ้น ไม่ว่าจะถูกลงโทษตามคำพิพากษาของศาลหรือไม่
จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจ ทหาร หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ถูกแต่งตั้งตามกฎหมายยุทธภัณฑ์ เช่น เหล่าผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารทั้งหลาย ผู้ว่า กทม. ปลัด กทม. และผู้อำนวยการเขตต่าง ๆ จะต้องเร่งดำเนินการ สืบหา จับกุม และตรวจค้นแหล่งที่มาของเสื้อเกราะดังกล่าว ที่การ์ดคณะราษฎรจัดซื้อจัดหาและนำมาใช้ เพื่อบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดต่อไป หากไม่ดำเนินการย่อมมีความผิดฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ตาม ป.อ.157 ด้วยเช่นกันสล็อตแตกง่าย